วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558

“ม่านเหล็ก”


การย้ายทีมของ "ซาโลมอน รอนดอน" จากเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก มาสู่ เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน สร้างความฮือฮาให้แก่วงการฟุตบอลได้ไม่น้อย
เพราะก่อนหน้านี้ดาวยิงทีมชาติเวเนซูเอลา ตกเป็นข่าวกับหลายสโมสรดังของยุโรป ซึ่งรวมถึง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่อยู่ในข่ายด้วย แต่ท้ายที่สุดกลับเป็น “เดอะ แบ็กกี้ส์” ที่ได้ตัวไปร่วมทีมแทน
อย่างไรก็ดี การย้ายทีมครั้งนี้มีเบื้องหลังที่เกิดจากเหตุปัจจัยที่น่าสนใจ
ทุกอย่างเริ่มต้นจากเสียงโทรศัพท์จากมิดแลนด์ของอังกฤษ ไปยัง "เซนต์ ปีเตอร์ส เบิร์ก" โดยต้นสายคือ "โทนี่ พูลิส" ผู้จัดการทีมเวสต์บรอมฯ ที่สอบถามว่าในลีกรัสเซีย มีผู้เล่นที่น่าจับตามองบ้างหรือไม่
กุนชือ
"อังเดร บีญาส-โบอาส" ตอบในเสียงปลายสายว่า “มี” พวกเขากำลังมีแผนการที่จะขาย "รอนดอน" ออกจากทีมอยู่พอดี
เรื่องนี้หากเกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ถือเป็นเรื่องที่แปลก เพราะระดับของทีมอย่าง เซนิต

นั้นสูงกว่า “แบ็กกี้ส์” อยู่ไม่น้อย ในขณะที่ รอนดอน เองก็จัดเป็นกองหน้าฝีเท้าดีคนหนึ่งซึ่งไม่น่าจะปล่อยตัวออกมาจากทีมได้อย่างง่ายดายเพียงนั้น
แต่เพราะกฏหมาย ที่ออกใหม่ในเรื่องการจำกัดผู้เล่นชาวต่างชาติ ซึ่งมาจากนโยบายของ "วลาดิเมียร์ ปูติน" ผู้นำสูงสุดของรัสเซีย ที่กังวลเรื่องวงการฟุตบอลในชาติ หลังย่ำแย่ในฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น